ส่วนลดการค้า(Trade Discount) และส่วนลดเงินสด (Cash Discount) แตกต่างกันอย่างไร
ดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งาน
 

ส่วนลด (Discount) หมายถึง จำนวนเงินที่ผู้ขายยอมลดให้กับผู้ซื้อ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของผู้ขาย ในการจูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า หรือจูงใจให้ผู้ซื้อสินค้าปริมาณมาก หรือเพื่อจูงใจให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าเป็นเงินเชื่อมาชำระหนี้เร็วขึ้นในการดำเนินธุรกิจซื้อ-ขายสินค้านั้น มักจะให้ส่วนลดแก่ผู้ซื้อใน 2 ลักษณะคือ


1. ส่วนลดการค้า
2. ส่วนลดเงินสด

โดยส่วนใหญ่แล้วส่วนลดทั้ง 2 แบบนี้ คนจะเข้าใจผิด หรือเข้าใจสลับกันไปมา โดยคิดว่า "ส่วนลดเงินสด" จะเป็นส่วนลดที่ลดทันทีหลังจากมีการซื้อขายสินค้า และ "ส่วนลดการค้า" จะลกก็ต่อเมื่อลูกหนีนำเงินมาชำระค่าสินค้า แต่จริงๆแล้สไม่ใช่เลย

 

ส่วนลดสินค้า สามารถลดได้ตามผู้ขาย และ กิจกรรมขณะนั้น
ส่วนลดสินค้า คือ ที่ผู้ขายยอมลดให้กับผู้ซื้อสินค้า เพื่อกระตุ้นยอดขาย



ส่วนลดการค้า (Trade Discount)
ส่วนลดการค้าเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพการแข่งขันทางธุรกิจ ทำให้ผู้ขายจะต้องพยายามจูงใจลูกค้าเพื่อให้ซื้อสินค้าของตนโดยการให้ส่วนลดทันทีที่ซื้อสินค้าจากราคาที่ตั้งไว้ (Price list) และสิ่งที่สำคัญของส่วนลดการค้า คือ ไม่มีการบันทึกบัญชีในส่วนที่เป็นส่วนลด จะบันทึกบัญชีซื้อสินค้าตามจำนวนเงินที่หลังหักส่วนลดการค้าแล้ว

เช่น ขายสินค้า 1000 บาท ให้ส่วนลดการค้า 200 บาท
การบันทึกบัญชี
เดบิต เงินสด.......800
เครดิต ขาย/รายได้จากการขาย.......800

ส่วนลดการค้าและส่วนลด แตกต่างกันอย่างไร
ส่วนลดการค้า เกิดจากการแข่งขัยทางธุรกิจ ที่ต้องพยายามจูงใจลูกค้าเพื่อซื้อสินค้า



ส่วนลดเงินสด (Cash Discount)

ส่วนลดต่างๆมีมากมาย และแตกต่างกัน
ส่วนลดเงินสด เป็นส่วนที่ผู้ขายสินค้า ยอมลดให้กับลูกหนี้ เพื่อให้ชำระคืนเร็วขึ้น



ส่วนลดเงินสด หมายถึง ส่วนลดที่เจ้าหนี้หรือผู้ขายสินค้ายอมลดหรือให้ส่วนลดแก่ลูกหนี้ โดยส่วนลดประเภทนี้จะเกิดขึ้นจากการขายเชื่อเท่านั้น เมื่อลูกหนี้นำเงินมาชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ วัตถุประสงค์ของการให้ส่วนลดเงินสดเพื่อต้องการจูงใจให้ลูกหนี้นำเงินมาชำระหนี้ให้เร็วขึ้น ส่วนลดเงินสด จะมีความเกี่ยวข้องกับ "เงื่อนไขการชำระเงิน" (Terms of payments) โดยปกติจะระบุไว้ในใบกำกับสินค้า เช่น 2/10,n/30 3/15,n/45 5/EOM หรือบางครั้งก็อาจจะระบุเป็นจำนวนเงินเลยก็ได้ ก็แล้วแต่กิจการ และการให้ส่วนลดประเภทนี้ก็จะต้องมีการบันทึกบัญชีด้วย


เช่น ขายสินค้า 1000 บาท โดยมีเงื่อนไขส่วนลด 2/10,n/30 (ลูกหนี้ชำระภายใน 30 วัน หลังจากที่ซื้อสินค้า)
บันทึกบัญชี
เดบิต เงินสด/เงินฝากธนาคาร 980
.......ส่วนลดจ่าย................20
เครดิต ลูกหนี้การค้า...................1000



ในระบบ ERP ยังมีโมดูลย่อยในเรื่องของการคิดส่วนลดอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นคิดส่วนลดให้กับลูกค้าหรือได้รับส่วนลดนั้นมา ก็สามารถที่จะนำข้อมูลข้อมูลมาบันทึกลงในระบบ ERP ได้อย่างง่ายดาย และจากบทความข้างต้นก็ทำให้เห็นว่าส่วนลดทั้ง 2 ประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นวัตถุประสงค์ สถานการณ์ หรือแม้กระทั่งการซื้อขายคนละแบบส่วนลดก็จะคนละแบบ และรวมไปถึงการการบันทึกบัญชีด้วยและ CRM  ในส่วนของการพัฒนาโปรแกรมระบบ CRM สามารถติดต่อทางบริษัท เอ็ม.ดี. ซอฟต์ จำกัด ซึ่งทางเราจะให้ บริการระบบ CRM สำเร็จรูป และ บริการพัฒนาระบบ CRM