SKU คืออะไร  เอสเคยูของสินค้าคืออะไร
ดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งาน
 

อาจหลายคนที่เคยใช้บริการ{--mlinkarticle=783--}คลังสินค้า{--mlinkarticle--}ไม่ว่าจะแบบ {--mlinkarticle=907--}Fulfilment {--mlinkarticle--}หรือคลังสินค้าแบบทั่วๆไปก็ตามอาจจะคุ้น หรือเคยเห็นตัวอักษร SKU มาบ้าง ไม่ว่าจะเป็น{--mlinkarticle=576--} ผู้ใช้งาน{--mlinkarticle--} ฝ่ายบัญชี ฝ่ายขาย หรือแม้แต่ผู้ประกอบ งั้นเรามาทำความรู้จักกันเลยครับ 

Stock Keeping Unit หรือ SKU หมายถึง หน่วยสินค้าที่เล็กที่สุดในระบบคลังสินค้า ช่วยแยกความแตกต่างของกลุ่มสินค้าในประเภทเดียวกัน โดยอาจจะจำแนกจาก สี, ขนาด, น้ำหนัก, ความกว้าง, ความยาว, ยี่ห้อ, รุ่น เป็นต้น โดยสินค้า 1 รหัสสามารถจำได้หลาย SKU แล้วแต่กิจการจะกำหนดจากความแตกต่างของสินค้านั้น ๆ


ความหมาย SKU  ที่มีรูปคนกำลังนับสินค้า
SKU หมายถึง หน่วยสินค้าที่เล็กที่สุดในระบบคลังสินค้า


แล้ว SKU กับ รหัสสินค้าต่างกันอย่างไร
รหัสสินค้า จะเป็นการกำหนดรหัสให้กับสินค้า โดยสินค้า 1 รายการจะมี 1 รหัส หรือ 1 สินค้า ต่อ 1 รหัส เช่น เสื้อ 1 รายการ กำหนดรหัสสินค้าเป็น T-001

SKU จะเป็นการกำหนดจากความแตกต่างของสินค้าแต่ละรหัสอีกที เช่น สี, ไซต์, รุ่น
เช่น เสื้อ 1 รายการ รหัส T-001 มีสีที่แตกต่างกัน สามารถกำหนดได้ T-001-RED, T-001-BLACK, T-001-WHITE
เช่น เสื้อ 1 รายการ รหัส T-001 มีไซต์ที่แตกต่างกัน สามารถกำหนดได้ T-001-S, T-001-M, T-001-L


SKU มีความสำคัญมากแค่ไหน
อย่างที่แจ้งไปข้างต้น SKU สามารถช่วยแยกความแตกต่างของกลุ่มสินค้าในประเภทเดียวกัน หากในอุตสาหกรรมที่ต้องผลิตสินค้าจำนวนมากและเป็นสินค้าประเภทเดียว จะเป็นเรื่องที่ยากในการตรวจนับ และการขนส่ง หากนำ SKU เข้ามาจำแนกสินค้าประเภทเดียวออกเป็นหน่วยย่อยๆได้ ก็จะสะดวกต่อการตรวจนับและการขนส่ง


 ข้อดีของ SKU
1. ช่วยให้ผู้ผลิต สามารถตรวจสอบและผลิตสินค้าได้ตรวตามความต้องการ ถูกต้อง ครบถ้วน
2. ช่วยให้ผู้ขายสามารถจำแนกสินค้าที่จะขายได้อย่างถูกต้อง
3. คลังสินค้าสามารถตรวจสอบสต็อกของสินค้าได้ง่ายขึ้น
4. ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อสินค้าตรงตามความต้องการ ในกรณีที่ผู้ขายระบุรายการสินค้าชัดเจน
5. หากมีการขายสินค้าผ่านระบบ E-Commerce สำหรับผู้ขายก็จะอำนวยความสะดวกต้องการตรวจสอบสต็อคสินค้าในระบบ สำหรับผู้ซื้อก็จะสะดวกต่อการเลื่อซื้อสินค้าเพราะมีการจำแนกมาแล้ว

 

สรุปแล้ว SKU จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้าของคุณ, การติดตามสินค้าคงคลัง รวมถึงวิเคราะห์การขายและแนวโน้มของผู้ซื้อได้ และสำคัญที่สุดคือ หลีกเลี่ยงการหมดสต็อกของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด ซึ่งทางบริษัทก็จะมี{--mlinkarticle=385--}โปรแกรมสำหรับจัดการบริหาร{--mlinkarticle--}มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ERP , {--mlinkarticle=369--}Odoo{--mlinkarticle--} , Joomla